
20/03/2025
📌อุปกรณ์ยอดฮิตที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับสายควัน นั่นก็คือ “บุหรี่ไฟฟ้า” หรือ “พอด” ซึ่งอุปกรณ์ทั้งสองอย่างนี้ ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนบุหรี่มวนที่มีกลิ่นเหม็น และมีอัตราการเผาไหม้ที่เยอะกว่า แต่ท่านทั้งหลายรู้หรือไม่ว่า อุปกรณ์ทั้งสองอย่างนี้ ไม่เพียงแค่ผู้ประกอบการ ผู้นำเข้า หรือผู้ขาย เท่านั้นที่ต้องรับผิด ผู้บริโภคอย่างเราๆ เอง ก็จะต้องรับผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 เช่นกัน
📍มาถึงจุดนี้ เชื่อว่า หลายท่านที่กำลังใช้อุปกรณ์เหล่านี้ คงแทบสำลักควันกันเลยทีเดียว เนื่องมาจากหลายท่านยังคงมีความเข้าใจที่ผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนว่า เราในฐานะผู้บริโภค ผู้ใช้ ผู้ซื้อ หรือผู้ครอบครอง มีความผิดจริงๆน่ะหรอ? วันนี้พบณัฐทนายความ ขอเป็นตัวแทนบอกเล่ากฎหมายใกล้ตัวท่าน ดังนี้
📍 📍เนื่องจากตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรีไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 เป็นผลทำให้ไม่มีผู้ประกอบการใดสามารถนำเข้าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
📍 📍เมื่อผู้ประกอบการไม่สามารถนำเข้าได้ตามประกาศข้างต้นแล้ว จึงมีกรณีการแอบนำเข้ามาขายให้แก่ผู้บริโภคในประเทศไทย โดยไม่ผ่านพิธีการศุลการกร เป็นผลให้ พรบ.ศุลกากร กำหนดหลักเกณฑ์ความผิดสำหรับผู้นำเข้า ส่งออก ตามมาตรา 242 ว่า ผู้ใดนําเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการ ศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือ รับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน สิบปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ริบของนั้น ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคําพิพากษาหรือไม่
📍 📍ต่อมาเมื่อบุหรี่ไฟฟ้า หรือพอด นั้น ผู้ประกอบการสามารถนำเข้ามาด้วยวิธีการหลบเลี่ยงพิธีการศุลกากรตามมาตรา 242 โดยสำเร็จ และนำมาขายให้แก่ผู้บริโภค และผู้รับบริโภครับไว้ จึงเป็นผลให้ พรบ.ศุลกากร 2560 กำหนดหลักเกณฑ์ความผิดสำหรับผู้บริโภคแต่ละประเภท ตามมาตรา 246 ว่า ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานํา หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึงได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วหรือทั้งจําท้ังปรับ
📌ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นข้อสรุปได้ว่า เมื่อบุหรี่ไฟฟ้า หรือพอด ถือเป็นของต้องห้ามนำเข้าประเทศไทยตามประกาศข้างต้น จึงไม่มีผู้ประกอบการใดสามารถนำเข้ามาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย บุหรี่ไฟฟ้า หรือพอด จึงถือเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีทางศุลกากร ตามมาตรา 242 ส่งผลให้บุคคลดังนี้ คือ ผู้ช่วยซ่อนเร้น ผู้ช่วยจําหน่าย ผู้ช่วยพาเอาไปเสีย ผู้ซื้อ ผู้รับจํานํา หรือผู้รับไว้โดยประการที่ตนพึงรู้ว่าเป็นของที่ยังไม่ผ่านพิธีทางศุลกากร จำต้องรับผิดตามกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาประเมินบุหรี่ไฟฟ้าหรือพอด
📌และด้วยเหตุตามมาตรา 64 แห่งประมวลกฎหมายอาญานั้น ถือเป็นข้อกฎหมายปิดปาก ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “บุคคลจะแก้ตัวว่าไม่รู้กฎหมายเพื่อให้พ้นจากความรับผิดในทางอาญาไม่ได้” ด้วยเหตุนี้เอง บรรดาสาวกสายควันจึงจะต้องควรระวังเป็นอย่างมาก เพราะอัตราโทษที่สูง ควบคู่มากับค่าประกันตัวที่สูงเช่นเดียวกันครับ